ระบบกันสะเทือนในรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ออกแบบมาในรูปแบบกระเดื่องทดแรง (Suspension Linkage) จะมีชิ้นส่วนที่ขยับหรือเคลื่อนไหวได้โดยเฉลี่ย ประมาณ 32 ชิ้น เริ่มมีใช้มาตั้งแต่รถจักรยานยนต์  Aprilia RSV4 จนถึง Yamaha R-1 และรถจักรยานยนต์รุ่นอื่นๆ  รถจักรยานยนต์ BMW และ Ducati เองก็พัฒนาระบบกันสะเทือนแบบแขนยึดติดไว้กับล้อหน้า โช้คอัพแบบ Duo-lever แท้ และ Tele-lever ออกมาเช่นกัน …ซึ่งทาง BDS PERFORMANCE มีกระเดื่องทดแรงสำหรับรถจักรยานยนต์ทุกรุ่น ทุกโมเดล

เราต่างเคยได้ยินคำว่า Dog Bones, Double dog bones, Trapped dog bone ตัวอุปกรณ์เสริม pivot deflector อุปกรณ์เสริม  Eccentric lever และ ระบบกันสะเทือนแบบสามขา ล้วนแล้วแต่เป็นระบบกันสะเทือนยุคใหม่ของรถจักรยานยนต์ที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างมุมและด้านของรูปสามเหลี่ยม การทำงานของระบบกันสะเทือนและสวิงอาร์มในขณะเข้าโค้ง

ระบบกันสะเทือนแบบกระเดื่องทดแรง (Suspension Linkage) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ การปรับแต่งเครื่องยนต์ และการปรับแต่งระบบกันสะเทือนปลีกย่อยเพื่อวัดค่า Sag และ ค่า Squat ที่ 2-3 kg/mm.ของการตั้งค่าความอ่อนแข็งของสปริงโช้ค(pre load) ร่วมกับการโยนตัวหรือเหวี่ยงตัวของสวิงอาร์มที่ยึดตัวรถและล้อหลังไว้ด้วยกัน ช่วยให้ใช้เวลาถอด-ประกอบเพื่อบำรุงรักษาสั้นลง สามารถขับขี่บนท้องถนนหรือแข่งขันในสนามได้อย่างนุ่มนวลมากขึ้น

ระบบกันสะเทือนแบบกระเดื่องทดแรง (Suspension Linkage) ต้องการการบำรุงรักษามากกว่าปกติ ชิ้นส่วนเหล่านี้มีจำนวนลูกปืน บูชชิ่งและซีลมากกว่า และชิ้นส่วนพวกนี้ถูกใส่เข้าไปในเครื่องยนต์ที่มีความทนทานเป็นพิเศษและมีแรงดันสูง จำเป็นต้องได้รับการตรวจเช็ค ทำความสะอาดและหล่อลื่นทุกๆ 6,000 กิโลเมตรหรือน้อยกว่านั้น เพื่อตรวจเช็คสภาพและหล่อลื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับขี่ในสภาพอากาศที่ฝนตกหรือหรือขับขี่ลุยน้ำท่วมยิ่งต้องดูแลบำรุงรักษามากขึ้นตามไปด้วย

คนจำนวนไม่น้อยเข้าใจว่าแค่ฉีดพ่นสเปรย์น้ำมันหล่อลื่นที่กระเดื่องทดแรงก็เพียงพอแล้ว ซึ่งไม่จริงเลย อย่าลืมว่าชิ้นส่วนนี้ถูกซีลหรือปิดผนึกเอาไว้ ต้องถอดแยกชิ้นส่วนออกมาก่อนถึงจะทำความสะอาด ตรวจสอบ หล่อลื่น และประกอบชิ้นส่วนกลับเข้าไปใหม่ ตรวจเช็คการทำงานและแรงบิดที่เหมาะสม